1.นำเสนอข้อมูลที่กระตุ้นความ “รู้สึก” ของคน
     การตลาดที่เพิ่มยอดขายไม่จำเป็นต้องเป็นโปรโมชั่นเสมอไป การทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงปัญหา เสนอวิธีแก้ปัญหา หรือทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต ก็สามารถเพิ่มยอดขายและทำให้ลูกค้านึกถึงธุรกิจเราได้
2.กำหนดราคา “ด้วยจิตวิทยา”
     การตั้งราคาที่ดึงดูดลูกค้าให้สนใจสินค้าไม่จำเป็นต้องลดราคาอย่างเดียว ทฤษฏีจิตวิทยากล่าวว่า สมองของคนส่วนใหญ่ เวลามองป้ายต่าง ๆ จะอ่านจากซ้ายไปขวา ดังนั้น การกำหนดราคาสินค้าต่าง ๆ ในร้านค้าจึงควรใช้ป้ายราคาในการกำหนดตัวเลขเพื่อใช้จิตวิทยากับลูกค้า ยกตัวอย่าง สินค้าราคาปกติราคา 30 บาท คนที่มองป้ายราคาก็จะเห็นเลข 3 ก่อน แต่ถ้าเปลี่ยนราคาไว้ที่ 29 บาท ทั้งที่จริง ๆ ต่างกันแค่ “บาทเดียว” แต่ความรู้สึกเวลาคนมองไปที่ป้ายราคาก็จะคิดว่าราคามันอยู่ที่หลัก 2 มากกว่าอยู่ดี การใช้วิธีนี้จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
3.การขายสินค้าแบบมีเงื่อนไข
     คือการนำเสนอส่วนลดที่น่าสนใจได้ดีแถมยังดึงดูดให้ลูกค้าใช้จ่ายเงินมากขึ้นเพื่อจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น โปรโมชั่นซื้อครบ 500 บาท ได้รับส่วนลด 20% ซึ่งการใช้โปรโมชั่นแบบนี้จะช่วยให้ลูกค้าซื้อของให้ครบ 500 มากขึ้น เพื่อที่จะได้รับส่วนลด 20%
4.ให้ความมั่นใจในการ “รับคืน” สินค้าและเพิ่ม “บริการพิเศษ”
      จุดอ่อนของการขายคือส่วนใหญ่ซื้อแล้วไม่รับคืนสินค้าในกรณีที่สินค้าไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นคนซื้อส่วนใหญ่จึงมีความลังเลส่วนหนึ่งก็ชะลอการซื้อไว้ก่อนจนกว่าจะมั่นใจ ร้านค้าอาจใช้วิธีให้ความมั่นใจในการรับคืนสินค้า  ถ้าลูกค้ามั่นใจว่าร้านนี้ จะทำให้ตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น และทำให้ประทับใจกลายเป็นลูกค้าประจำ และอาจจะบอกต่อให้คนรู้จักมาเป็นลูกค้าที่ร้านค้าและการเพิ่มบริการพิเศษ หรือการได้รับสิ่งที่มากกว่าราคาสินค้าที่จ่ายไปจะทำให้ลูกค้าพึงพอใจได้ ยกตัวอย่างเช่น บริการจัดส่งฟรีถึงบ้าน
6. การขายสินค้าแบบ Up-selling
      Up-selling คือ การเพิ่มยอดขายที่ซับซ้อน เพราะมันเป็นการเน้นขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูงกว่าอีกชิ้นในกลุ่มเดียวกัน ซึ่งสินค้านั้นจะต้องมีความพิเศษกว่าสินค้าที่ลูกค้ากำลังตัดสินใจอยู่ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของผู้ขายคือ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า การเพิ่มเงินซื้อสินค้าเพียงไม่กี่บาท ทำให้ได้สินค้าพรีเมี่ยมกว่า ได้โดยไม่รู้สึกเสียดายที่จะจ่ายเงินเพิ่ม เช่น การให้พนักงานคอยให้คำแนะนำและโน้มน้าวใจลูกค้าให้ซื้อสินค้าอีก 1 ชิ้นในราคาที่ถูกกว่า , การจัดโปรโมชั่น ซื้อ 3 แถม 1
7. ซื้อ 1 ฟรี 1
     พลังของคำว่า “ฟรี” มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อมากๆ ข้อดีของการซื้อ 1 ฟรี 1 คือทำให้ขายสินค้าได้มากขึ้นและอาจช่วยระบายสินค้าในสต็อคที่คงอยู่ออกไปได้มากขึ้น โดยสินค้าที่แถมฟรีอาจไม่ใช่สินค้าที่ขาย
8.กดไลค์ กดแชร์ผ่านโซเชี่ยล
     การให้ลูกค้า กดไลค์ กดแชร์ผ่านโซเชี่ยล หรือกดไลค์แฟนเพจทาง Facebook หรือแอดไลน์ ของร้านค้าเพื่อรับส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าภายในร้าน จะทำให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อสินค้า ดูราคา ติดตามโปรโมชั่น ข่าวประชาสัมพันธ์ต่างๆ จากทางร้านได้ง่ายยิ่งขึ้น ยิ่งเห็นสินค้าบ่อยเท่าไหร่ โอกาสจะซื้อสินค้าก็ยิ่งมากขึ้น
9.โปรโมชั่นสะสมแต้ม แลกรับรางวัลหรือส่วนลด
      การให้ลูกค้าซื้อสินค้าของทางร้านก็จะได้รับบัตรสะสมแต้ม การได้รับแต้มของแต่ละร้านจะแตกต่างกัน แล้วเมื่อสะสมแต้มครบที่กำหนด ลูกค้า สามารถแลกเป็นส่วนลด หรือรับรางวัลพิเศษได้  
.
เห็นไหมคะว่าการเลือกวิธีทำโปรโมชั่นมีเยอะมาก ไม่ว่าเราจะเลือกวิธีไหนก็ตาม ต้องดูความสมเหตุสมผล และคำนวณว่าธุรกิจเราจะได้รับผลจากโปรโมชั่นนี้มากน้อยอย่างไร การเพิ่มยอดขายด้วยโปรโมชั่น จึงเหมาะกับธุรกิจที่มีการวางแผนบริหารจัดการมาเป็นอย่างดี บางธุรกิจเน้นจัดโปรโมชั่นมากไป แม้จะขายดี แต่บางทีก็ทำให้ธุรกิจไม่มีกำไรได้เช่นกัน