จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ลากยาวมาราธอนเข้าสู่ปีที่ 3 แล้ว สร้างผลกระทบในการดำรงชีวิตแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน การค้าขายต่างๆ ส่งผลให้ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ตั้งแต่การลดการเดินทาง งดเข้าพื้นที่เสี่ยง อยู่แต่ในบ้าน ส่วนภาคธุรกิจก็รับผลกระทบไม่แพ้กัน เช่น ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า ธนาคาร บริษัทต่างๆ ก็ต้องปรับตัว มีการเว้นระยะห่าง (Social distancing) สวมหน้ากากอนามัย ผ่านจุดคัดกรอง ทุกกิจกรรมส่งผลให้เราปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จนกลายเป็นความปกติใหม่ (New Normal) ไปเรียบร้อย ผลกระทบอีกด้านคือผู้คนเริ่มทำความเข้าใจ เรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ๆ มากขึ้น ยกตัวอย่างง่ายๆ จากที่เคยกินข้าวที่ร้านอาหาร ตอนนี้การสั่งผ่านสมาร์ทโฟน ถือว่าเป็นเรื่องที่กลายเป็นความปกติใหม่เช่นกัน แน่นอนว่าส่งผลเพื่อก้าวไปสู่ชีวิตวิถีถัดไป (Next Normal) ช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19



ธุรกิจร้านอาหารกับการเตรียมความพร้อมวิถียุคหลังโควิด-19 "Next Normal"

       ในภาคส่วนของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจร้านอาหาร ที่ต้องปรับรูปแบบการให้บริการในยุค New Normal ให้ไปอยู่ในระบบออนไลน์ ซึ่งจะเห็นได้ว่า บนชีวิตวิถีใหม่มีการใช้บริการต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น มีแพลตฟอร์มบริการดิจิทัล (Digital Service Platform) บนระบบออนไลน์เกิดขึ้นมากมาย เดลิเวอรี ร้านรองรับการซื้อกลับบ้าน (Take away) ทำให้เข้าถึงสินค้าและบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น เราจะเห็นได้ว่าสถานการณ์โควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นเทรนด์ในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าให้เกิดขึ้นเร็วขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลผ่านระบบออนไลน์ต่างๆ เพื่อที่จะอยู่กับชีวิตวิถีใหม่ได้ 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบให้ร้านอาหารต้องปรับรูปแบบการบริการ

  1. ช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายมากขึ้น แน่นอนว่าการเปิดร้านอาหารไม่ได้มีแค่หน้าร้านอย่างเดียวเท่านั้น เพราะเดี๋ยวนี้หากร้านไหนไม่ลงขายหลายๆแพลตฟอร์ม หรือลงผ่านระบบออนไลน์ เหมือนโอกาสที่ลูกค้าจะเห็นก็น้อยตาม การขายอาหารได้หลายช่องทางไม่แค่นั่งทานในร้าน(Die-in)เท่านั้น แต่ต้องรองรับเดลิเวอรี ซื้อกลับบ้าน หรือจุดรับสินค้า (Pick-up service) ได้ด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า
  2. เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทต่อทุกคน โดยเฉพาะผู้บริโภค จนสามารถกำหนดโชคชะตาของผู้ประกอบการร้านอาหารได้ ซึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามาช่วยร้านอาหาร ไม่เพียงแต่สั่งอาหารเท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกให้ทั้งพนักงานและผู้บริโภค การชำระเงิน และยังสื่อสารการตลาดได้อย่างดี 
  3. คลาวด์คิทเช่น (Cloud kitchen) ที่ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเสมอไป เพราะยุคนี้เราสามารถสร้างหน้าร้านอาหารออนไลน์ได้ ตีคู่มากับบริการเดลิเวอรีเจ้าต่างๆ
  4. เทคโนโลยี QR CODE ที่ถูกนำมาใช้งานมากขึ้น ทั้งเป็นเมนูอาหาร เช็คบิล ชำระเงิน อีกทั้งยังสามารถดึงดูดผู้บริโภค เพราะง่ายต่อการเลือกดูอาหาร สั่งอาหารได้ด้วยตัวเอง สื่อสารการตลาดได้อย่างดี

     จากปัจจัยที่กล่าวมาเบื้องต้นก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้หลายๆร้านอาหารปรับตัวและนำเอาเทคโนโลยีมาใช้บริหารและให้บริการแก่ลูกค้าของตนเอง และอีกไม่นานเราอาจจะเข้าสู่สังคมไร้เงินสด ที่จะเป็นกระแสในอนาคตอันใกล้นี้ สถานการณ์ดควิด-19 ในประเทศไทยของเราถึงแม้ช่วงนี้ จะเริ่มดีขึ้น ร้านอาหารเริ่มเปิดให้นั่งทานในร้านได้ แต่ก็ยังมีบางร้านที่จำกัดการให้บริการ และก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นจริงๆ หรือจะมีเหตุการณ์การแพร่ระบาดจากไวรัสสายพันธุ์อื่นอีกไหม การรักษาระยะห่างในร้านอาหารก็ยังคงสำคัญต่อการใช้บริการอย่างมาก การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริการผู้บริโภค จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในยุคนี้ นอกจากลดระยะห่างของพนักงานและลูกค้าได้แล้ว ยังส่งเสริมด้านการตลาดให้กับร้านอาหารได้อีกด้วย 

     จะเห็นได้ว่าการปรับตัวจาก "New Normal" ไปสู่ "Next Normal" จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ที่ทุกคนต้องเรียนรู้และนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต ในภาคธุรกิจร้านอาหารก็เช่นกัน เพราะการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัลมีมากขึ้นเรื่อยๆ และจากมาตรการของทางรัฐที่ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจโดยใช้แอพพลิเคชั่น เช่น เป๋าตังค์ นอกจากยอดขายผ่านหน้าร้านแล้ว ก็ยังได้ยอดขายจากเดลิเวอรี และผ่านช่องทางอื่นๆ นั่นคือสิ่งที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องหันมาทำความเข้าใจเทคโนโลยี และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของตนเอง